โรค Systemic Lupus Erythematosus / Sle: Systemic Lupus Erythematosus คืออะไร? ข้อมูลโรค อาการ รักษา | Hd สุขภาพดี เริ่มต้นที่นี่
นำตัวอย่างเลือดไปปั่นเหวี่ยงให้ตกตะกอน 15 นาทีที่อุณหภูมิห้อง 2. นำซีลั่มที่ได้ไปเจือจางด้วย phosphate-buffered saline (PBS) เพื่อทำให้ได้ความเข็มข้นเป็น 1:2, 1:10, 1:100 ดังนี้ - 1 มิลลิลิตรไปเติม 1 มิลลิลิตร phosphate-buffered saline (PBS) - 1 มิลลิลิตรไปเติม 9 มิลลิลิตร phosphate-buffered saline (PBS) - 0. 1 มิลลิลิตรไปเติม 9. 9 มิลลิลิตร phosphate-buffered saline (PBS) กลับหลอดให้สารผสมกันให้ทั่ว 3. ดูดสารละลายในแต่ละความเข็มข้นจำนวน 0. 1 มิลลิลิตรไปยัง ELISA Plate ที่เคลือบ SLE antigen ไว้แล้ว 4. เติมสารละลาย anti-DNA primary antibody (positive control) และ a buffer (negaticontrol) 5. นำไปบ่ม 37° C เป็นเวลา 15 นาที 6. ดูสารละลายออก แล้วล้างด้วย PBS เป็นจำนวน 3 – 6 ครั้ง 7. เติม Rabbit anti-human Antibody (secondary antibody) ซึ่งติดฉลากไว้ด้วย เอนไซม์ HRP 8. นำไปบ่ม 37° C เป็นเวลา 15 นาที 9. ดูสารละลายออก แล้วล้างด้วย PBS 0. 1 ml เป็นจำนวน 3 – 6 ครั้ง 10. เติม buffer 0. 1 ml ที่มี HRP Substrate อยู่ แล้วปล่อยให้เกิดการทำปฏิกริยาระหว่าง เอนไซม์ HRP และ HRP Substrate เอกสารอ้างอิง Arbuckle M, et al.
Pictures
ทำการศึกษาจากตัวอย่างเลือดของกองกำลังติดอาวุธแห่งชาติไทย จำนวน 200 นายที่มีตัวอย่างเลือดอยู่นายละ 10 ตัวอย่าง โดยแต่ละตัวอย่างเก็บห่างกันตัวอย่างละ 1 ปี 2. ทำการศึกษาหาความเข้มข้นของ ANA (antinuclear antibodies) โดยใช้การทดสอบแบบ ELISA เปรียบเทียบปริมาณในแต่ละปีของ กองกำลังติดอาวุธแห่งชาติไทย ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. ทำให้ทราบระยะเวลาที่จะมีการแสดงออกของโรคหลังจากการตรวจพบ 2. ทำให้ทราบสารที่อาจบ่งบอกถึงการเป็นโรค เอกสารที่เกี่ยวข้อง 1. ELISA เป็นการตรวจหาแอนติบอดี้เป้าหมาย โดยให้ แอนติบอดี้เป้าหมายจับกับแอนติเจนที่เคลือบไว้ที่ผิวของภาชนะ หลังจากนั้นเติมแอนติบอดี้ที่ติดฉลากด้วยเอนไซม ซึ่งจำเพาะต่อ แอนติบอดี้เป้าหมาย เมื่อเติมสารที่เปลี่ยนแปลงสีได้ ให้ทำปฏิกริยากับเอนไซม์ที่ติดกับแอนติบอดีตัวที่สอง จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสีเกิดขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของสีที่เกิดขึ้นจะเป็นสัดส่วนโดยตรง A Bind sample to support B Add primary antibody; wash C Add secondary antibody-enzyme conjugate; wash D Add substrate 2. Antinuclear antibody คือตรวจหาว่ามีภูมิคุ้มกันของร่างกาย antibody ทำลาย nucleus ตัวเองหรือไม่ วิธีการโดยการหยด serum ของผู้ป่วยบนเซลล์ของตับหนู แล้วใช้ antihuman IgG ซึ่งฉาบสารเรืองแสงส่องกล้องจุลทรรศน์เรืองแสงจะพบความผิดปกติได้ ถ้าการตรวจให้ผลบวกแสดงว่าเป็น SLE 3.
Icd 10
เผยแพร่ครั้งแรก 7 เม. ย. 2020 อัปเดตล่าสุด 17 พ. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที โรคเอสแอลอีหรือโรคพุ่มพวง เป็นโรคหนึ่งที่พบได้บ่อยในกลุ่มโรคแพ้ภูมิตนเอง (Autoimmune disease) มาจากภูมิคุ้มกันของร่างกายซึ่งโดยปกติจะทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรค เกิดความผิดปกติ ไปเข้าใจว่าเนื้อเยื่อของร่างกายตนเองเป็นเซลล์แปลกปลอม จึงเกิดการทำลายเนื้อเยื่อตนเอง ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง อาการแสดงที่เกิดจากภูมิคุ้มกันทำลายตนเองมีในหลายระบบด้วยกัน เช่น อาการทางข้อ ผิวหนัง ไต ระบบเลือด สมอง หัวใจ ปอด แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 873 บาท ลดสูงสุด 3% จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม! กด นอกจากนี้ ในผู้ป่วยบางรายอาจเกิดโรคได้จากสิ่งกระตุ้นบางอย่าง เช่น การติดเชื้อ ยาบางชนิด รวมทั้งแสงแดด โรค SLE อาการเป็นอย่างไร?
ในปัจจุบันอาจยังไม่มีวิธีรักษาโรค SLE จนหายสนิท แต่มีวิธีรักษาเพื่อควบคุมอาการได้ การรักษานั้นขึ้นกับอาการและอาการแสดงของคนไข้แต่ละราย โดยอาจมีการใช้ยากดภูมิ ยากดการอักเสบ ยาต้านโรคมาลาเรีย หรือยาทางชีววัตถุอื่นๆ ซึ่งมีความซับซ้อน และต้องคอยติดตามกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ SLE ถ้าเป็นแล้ว จะมีชีวิตอยู่ได้นานเท่าไร? โรค SLE เป็นโรคเรื้อรังที่สามารถมีระยะกำเริบ ทำให้เกิดอาการแย่ลงได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่รับการรักษา สามารถมีชีวิตยืนยาวตามปกติได้ เมื่อเป็นโรค SLE ควรปฏิบัติตนอย่างไร?
Icd 10 code
- โรค systemic lupus erythematosus
- โรค systemic lupus erythematosus pathophysiology
- โยธาไทย Downloads: แบบมาตรฐานงานสะพาน สำหรับ อปท. ปี2556
- โรค systemic lupus erythematosus sle
- Jelly bunny สาขา ระยอง de
![โรค systemic lupus erythematosus wikipedia](https://casereports.bmj.com/content/casereports/2017/bcr-2017-222235/F2.large.jpg?width=800&height=600&carousel=1)