Leadership Styles คือ – Leadership Style สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กรหรือไม่ – Qgen

ผู้นำแบบเผด็จการ (Autocratic Leader) เป็นผู้นำที่ชอบออกคำสั่งให้ปฏิบัติตามโดยใช้การติดต่อสื่อสารทางเดียว ใช้อำนาจควบคุม มีบทลงโทษและรางวัลชัดเจน เน้นผลงานและเป้าหมาย ชอบตัดสินใจด้วยตัวเอง จะเน้นงานมากกว่าเน้นสัมพันธภาพของคน ผู้นำลักษณะนี้เหมาะกับการเป็นผู้นำของคนงานที่เป็นแรงงานมีการศึกษาต่ำ ไม่สนใจการพัฒนาความรู้และความสามารถ ผู้นำจึงควรใช้วิธีเผด็จการเพื่อสั่งงานและกำหนดบทลงโทษและรางวัลให้เพื่อบรรลุเป้าหมายขององค์กร 2. ผู้นำแบบประชาธิปไตย (Democratic Leader) เป็นลักษณะผู้นำที่มีประสิทธิภาพที่สุด มีผู้นำจำนวนมากที่นิยมการนำแบบประชาธิปไตย คือ เน้นการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจกับลูกน้อง ฟังความคิดเห็น คำนึงถึงความต้องการและความรู้สึกของผู้ใต้บังคับบัญชา เน้นดูแลและมีสัมพันธภาพของคนมากกว่าเน้นงาน เพื่อจูงใจให้คนทำงานได้ตามเป้าหมาย ลักษณะผู้นำประเภทนี้เหมาะกับการปกครองพนักงานที่มีความรู้ ความสามารถ มีการศึกษาสูงเพระการให้อิสระในการออกความเห็นจะทำให้เขาพอใจและพร้อมที่จะทำงานที่ตนได้ออกความเห็นไป 3.

Questionnaire

Leadership Style หรือสไตล์การทำงานของผู้นำ เมื่อยึดตามนักวิชาการ 'เคิร์ท เลวิน' ผู้บุกเบิกแนวคิดจิตวิทยาสังคม องค์กร และจิตวิทยาประยุกต์ สามารถแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้ 1. Authoritative (หัวหน้าแบบยึดอำนาจ) หัวหน้าเป็นคนตัดสินใจเด็ดขาดเพียงผู้เดียว มอบหมายงานและหน้าที่ความรับผิดชอบให้ลูกน้องนำไปปฏิบัติตามคำสั่ง 2. Participative (หัวหน้าแบบประชาธิปไตย) หัวหน้าเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ รับฟัง เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น และหัวหน้าจะตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย 3. Delegative (หัวหน้าแบบเสรีนิยม) หัวหน้ามอบอำนาจในการดำเนินงานให้ลูกน้อง ให้ลูกน้องสามารถดำเนินงาน ตัดสินใจ ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง และเป็นคนดูแลรับผิดชอบผลการดำเนินงานของลูกน้องที่ได้ดำเนินการไป (อ้างอิง:) แน่นอนว่าผู้นำแต่ละคนย่อมมีสไตล์การทำงานที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาด้วยเช่นกันคือ Leadership Style ที่ผู้นำเป็นนั้นสอดคล้องกับองค์กรหรือไม่?

ความพร้อมในการปฏิบัติงาน ( Job Maturity) ได้แก่ ทักษะและความรู้ความสามารถทางเทคนิคของผู้ตามในการปฏิบัติงาน 2. ความพร้อมทางด้านจิตใจ ( Psychology Maturity) คือการที่ผู้ตามมีความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเองในอันที่จะปฏิบัติงานต่าง ๆ อันเนื่องจากการมีทักษะ ความรู้ความสามารถที่จะใช้ในการปฏิบัติงาน การศึกษาของ Hersey-Blanchard ทำให้เกิดรูปแบบของการทำงานของผู้นำ 4 แบบ คือ 1. การบอกกล่าว ( Telling) คือ ผู้นำการสั่งการในรายละเอียด ภาวะผู้นำแบบนี้มีประสิทธิผลสูงสุด เมื่อผู้ตามไม่มีความสามารถและไม่มีความเต็มใจในการทำงาน 2. การนำเสนอความคิด ( Selling) คือ ผู้นำบอกทิศทางที่ตนต้องการและสนับสนุนให้ผู้ปฏิบัติงานทำงาน มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อ ผู้ตามไม่มีสามารถ แต่มีความเต็มใจในการทำงาน 3. การมีส่วนร่วม ( Participation) คือ ผู้นำเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมปฏิบัติงาน ไม่ชี้นำในการตัดสินใจของผู้ร่วมปฏิบัติงาน มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อผู้ตามมีความสามารถ แต่ไม่มีความเต็มใจในการทำงาน 4. การมอบหมายงาน ( Delegation) คือ ให้ผู้ปฏิบัติงานดำเนินการอย่างอิสระ ต้องช่วยเหลือการทำงาน ประสิทธิผลสูงสุด เมื่อผู้ตามมีความสามารถ และมีความเต็มใจในการทำงาน 3.

Examples

leadership styles คือ p

Leadership Style สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กรหรือไม่ – QGEN

leadership styles คือ images

เป็นคนที่มีทักษะการสื่อสารที่ดีมาก ผู้นำเชิงกลยุทธ์นอกเหนือจากการมีทักษะจำพวก Hard Skill แล้วก็ต้องเป็นคนที่มีที่บุคลิกลักษณะของการเป็นผู้สื่อสารที่ดี เพราะมันจะช่วยให้ผู้นำสามารถสื่อสารและถ่ายทอดข้อมูลรวมไปถึงความคิดต่างๆให้กับทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบการประชุม การสอนงาน การถ่ายทอดงาน การนำเสนองาน รวมไปถึงการทำ Presentation ต่างๆ 2. เป็นผู้ฟังอย่างตั้งใจจริง นอกจากเป็นผู้ถ่ายทอดหรือสื่อสารที่ดีแล้วก็ต้องรับฟังสิ่งต่างๆอย่างตั้งใจ ผู้นำที่รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆจะช่วยให้องค์กรได้เรียนรู้และปรับตัวได้รวดเร็วขึ้น ทั้งการปรับปรุงสินค้าหรือบริการรวมถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นภายในองค์กร ความเป็นผู้ฟังที่ดีจะช่วยสร้างให้เกิดวัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture) ที่ดีและมีประสิทธิภาพซึ่งส่งผลต่อบรรยากาศการทำงาน 3. มีความมุ่งมั่นและให้คำมั่นสัญญา ความมุ่งมั่นหรือที่เรียกว่า Passion นั้นจะช่วยจุดประกายให้กับพนักงานและองค์กรขับเคลื่อนไปด้วยความสนุกสนาน ความตื่นเต้น ซึ่งมันสร้างให้เกิดความทุ่มเทในการทำงานอย่างเต็มที่ นอกจากนั้นความมุ่งมั่นและคำมั่นสัญญาที่มีก็ยังช่วยให้ก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆได้อย่างไม่ยากเย็นเวลาทำโครงการหรือแคมเปญต่างๆ 4.

Worksheets

มีคำกล่าวไว้ว่า "เราศึกษาอดีต เพื่อคาดการณ์อนาคต" ถ้าลองดูจากประวัติศาสตร์ มีตัวอย่างผู้นำเจ๋งๆ มากมายให้เราได้ไปศึกษาและเรียนรู้ ซึ่งผู้นำแต่ละคนก็ดูจะมีสไตล์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เช่นถ้าพูดถึง Steve Jobs ก็จะนึกถึงสไตล์การนำที่เน้นสั่ง (อยากได้ ต้องได้) พูดถึง Mahatma Gandhi ก็จะนึกถึงสไตล์การนำที่ใช้ความแน่วแน่ของเขาสร้างความเป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณ หรือถ้านึกถึง Richard Branson ก็จะนึกถึงผู้นำสไตล์กล้าทำและพร้อมลุยไปกับทีมงาน แต่การที่ผู้นำแต่ละคนประสบความสำเร็จได้นั้น พวกเขาพึ่งพาแต่สไตล์การนำที่โดดเด่นเพียงแค่อย่างใดอย่างนึงแค่นั้นรึเปล่า? บทความจาก Harvard Business Review (HBR) ที่เขียนโดย Daniel Goleman บอกว่าสไตล์การนำแต่ละแบบมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกัน และในผู้นำ 1 คนนั้นสามารถมีสไตล์การนำได้หลายอย่าง ซึ่งผู้นำที่ดีจะต้องเลือกใช้สไตล์การนำให้เหมาะกับสถานการณ์ ในบทความนี้ ผมจะพาคุณไปรู้จักกับสไตล์การนำทั้ง 6 แบบ พร้อมกับจะยกตัวอย่างให้คุณได้เห็นด้วยว่าสไตล์การนำแบบไหนเหมาะกับสถานการณ์แบบไหน สไตล์การนำทั้ง 6 แบบ! เลือกหยิบไปใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ 1.

  1. Leadership styles คือ
  2. ดอกไม้ประดิษฐ์จากหลอดกาแฟ
  3. การ ซะ กา ต
  4. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership) - GotoKnow
  5. จอ note 10
  6. Leadership styles คือ theory

สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ผู้นำที่สุขภาพดีจะได้รับการยอมรับมากกว่าผู้นำที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง 2. มีความรู้และการศึกษา ผู้นำที่มีความรู้ความสามารถในงานที่ทำจะได้รับการยอมรับมากกว่าการที่ความรู้น้อยหรือไม่มีความรู้ในงานที่ทำ 3. มีความสามารถและสติปัญญาดี ผู้นำที่ฉลาดและมีความสามารถในการแก้ปัญหาได้ดีจะได้รับการยอมรับมากกว่าผู้นำที่ไม่มีความสามารถและเรียนรู้ยาก 4. บุคลิกภาพดี การเป็นผู้นำต้องฝึกบุคลิกภาพตนเองให้ดี ไม่หลุกหลิก กัดเล็บ หรือมีเสียงในคอแปลกๆ การมีบุคลิกภาพดี แต่งตัวตามกาลเทศะทำให้สังคมยอมรับการเป็นผู้นำได้ดี 5. ขยัน อดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ผู้นำที่ดีจะต้องเป็นผู้นำให้ผู้ตามเห็นว่าการทำอะไรต้องไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ขยันอดทนเพื่อให้งานสำเร็จแม้ว่าจะต้องกลับดึกเพื่อให้งานสำเร็จได้ ก็จะได้รับการยอมรับมากกว่าผู้นำที่ขี้เกียจ ได้แต่สั่งให้ลูกน้องทำงาน 6. มีมนุษย์สัมพันธ์ดี การเป็นผู้นำต้องฝึกฝนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทั้งลูกน้อง ลูกค้าและสังคมรอบข้างเพื่อได้รับความร่วมมือที่ดีเมื่อต้องการความร่วมมือจากสังคม คุณสมบัติการเป็นผู้นำที่ดีมีดังนี้ 1. เป็นผู้มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ มองการณ์ไกล (มีวิสัยทัศน์ที่ดี) ไม่ใช่ความคิดแบบเพ้อฝันแต่เป็นความคิดที่ช่วยให้กิจการเจริญเติบโตได้ 2.

เป็นผู้สั่งงานและกระจายงานให้ลูกน้องได้เหมาะสม ผู้นำที่ดีต้องมีความยุติธรรมในการมอบหมายงาน และมีศิลปะในการสั่งงานให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเต็มใจที่จะทำและทำงานนั้นอย่างเต็มที่ 3. รู้จักสอนงานและพัฒนาผู้อื่น ผู้นำที่ดีต้องรู้พัฒนาความรู้ ความสามารถของลูกน้องตนเองให้เก่งขึ้นด้วยการสอนงานหรือส่งไปสัมมนาอบรมให้ลูกน้องตนเองมีความสามารถมากขึ้นในการทำงาน 4. สร้างขวัญ กำลังใจให้กับลูกน้องและทีมงานตนเอง การสร้างขวัญกำลังใจบางคนก็เป็นเรื่องของค่าตอบแทน คำชมเชย รางวัลเพื่อให้ลูกน้องตนเองมีขวัญและกำลังใจในงานต่อไป 5.

Create a jobsDB profile Increase your chances of getting hired. Update your jobsDB profile เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ทฤษฎีของการบริหารคน X Y Z 3 วิธีฝึกพนักงานให้เรียนรู้อย่างรวดเร็ว

  1. Hyper 10 scooter ราคา
  2. การตอบแชทของผู้ชาย